คือระบบบริหารจัดการน้ำมันแบบอัตโนมัติ โดยมีโปรแกรมควบคุมการเติมน้ำมัน, รถบรรทุกน้ำมันสำหรับขนส่งเป็นตัวกลางในการจัดการ เรียกได้ว่าเป็นระบบควบคุมการจ่ายน้ำมันที่สามารถบริหารจัดการการใช้น้ำมันทั้งหมดในองค์กรได้อย่างครบวงจร ให้คุณสามารถควบคุมทุกความเคลื่อนไหวได้จากทุกที่ผ่าน Cloud แบบ Real-Time ใช้ได้ทั้งระบบปั๊มน้ำมันอัจฉริยะสำหรับขนส่งโลจิสติกส์ทั้งแบบมีหรือไม่มีพนักงานประจำ รวมถึงรถบรรทุกน้ำมันหน้าไซต์งานต่าง ๆ ครอบคลุมตั้งแต่ธุรกิจขนส่ง, ก่อสร้าง, โรงงานอุตสาหกรรม, ท่าเรือ, สนามบิน, หรือกิจการเหมือง โดยระบบควบคุมการเติมน้ำมันอัจฉริยะสำหรับบริษัทขนส่งจะช่วยให้ Fleet Manager สามารถควบคุมการจ่ายน้ำมันและตรวจสอบระดับน้ำมันได้อย่างมีประสิทธิภาพจากระยะไกล สะดวก รวดเร็วและปลอดภัย นับได้ว่าเป็นโซลูชันที่ตอบโจทย์อย่างยิ่งในยุคนี้
“น้ำมัน” เป็นต้นทุนหลักของธุรกิจการขนส่งทุกประเภท ด้วยระบบการทำงานที่จะต้องขับเคลื่อนด้วยเชื้อเพลิงอยู่ตลอดเวลา จึงทำให้การบริหารจัดการเรื่องน้ำมันเป็นสิ่งสำคัญ เพราะหลายครั้งได้พบว่า ปัญหาของธุรกิจขนส่งมักจะมาจากการจัดการน้ำมันเชื้อเพลิงที่ไม่ครอบคลุม โดยมีสาเหตุมาจากการปฏิบัติงานที่ไม่มีโซลูชันระบบการควบคุมน้ำมันเข้ามาเป็นตัวช่วย รวมถึงการใช้ทรัพยากรมนุษย์ในการทำงานแบบดั้งเดิม ซึ่งทำให้เจอกับปัญหาต่าง ๆ ดังนี้
Orpak Home Base คือโซลูชันระบบปั๊มน้ำมันที่จำเป็นสำหรับบริษัทขนส่งทุกประเภท จะเข้ามาช่วยบริหารจัดการปัญหาที่เกิดจากการจ่ายน้ำมัน อุดรอยรั่วเรื่องการบริหารเวลา ต้นทุน ตลอดจนสามารถรายงานผลเพื่อควบคุมทุกการเคลื่อนไหวในแบบ Real-Time ด้วยระบบโปรแกรมการเติมน้ำมันที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่เหมาะสม ให้ทั้ง Fleet Manager และพนักงานขับรถทั่วไปสามารถใช้งานได้อย่างง่ายดาย
เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า
บริษัท ออร์แพค โซลูชั่น จำกัด (“บริษัท”) ให้ความสำคัญกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจของบริษัท โดยนโยบายความเป็นส่วนตัวสำหรับพันธมิตรทางธุรกิจฉบับนี้ (“นโยบายความเป็นส่วนตัว”)อธิบายวิธีการที่บริษัท เก็บรวบรวม ใช้และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคลากร บุคคลผู้ได้รับมอบอำนาจ กรรมการ ผู้ถือหุ้นของพันธมิตรทางธุรกิจและผู้ติดต่ออื่น ๆ ของพันธมิตรทางธุรกิจ (เรียกรวมกันว่า “ท่าน”) และแจ้งให้ท่านทราบเกี่ยวกับสิทธิที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้พันธมิตรทางธุรกิจ ตามนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ (“พันธมิตรทางธุรกิจ”) รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง ลูกค้ำบุคคลธรรมดา ลูกองค์กร/ นิติบุคคลจัดผู้จัดจำหน่าย และพันธมิตรทางธุรกิจ
บริษัทเก็บรวบรวม ใช้และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เนื่องจากบริษัทมีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับท่านในปัจจุบัน หรืออาจมีความสัมพันธ์กับท่านเพื่อธุรกิจในอนาคต หรือเนื่องจากบริษัทมีความสัมพันธ์กับพันธมิตร ทางธุรกิจที่ท่านทำงานให้ดำเนินการแทน หรือเป็นตัวแทน เช่น พันธมิตรทางธุรกิจของบริษัทที่จัดหาสินค้าหรือให้บริการ แก่บริษัท หรือที่บริษัทติดต่อสื่อสารด้วยในทางธุรกิจซึ่งอาจเกี่ยวพันถึงท่าน
1. บริษัทเก็บรวรวมข้อมูลส่วนบุคคลใดบ้าง
“ข้อมูลส่วนบุคคล” หมายถึงข้อมูลใดๆเกี่ยวกับท่านที่สามารถระบุตัวตนท่านได้ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม (ทั้งนี้ไม่รวมถึงข้อมูลของบุคคลที่ถึงแก่กรรมไปแล้ว)โดยบริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลประเภทต่างๆตามที่ระบุด้านล่าง
ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ-นามสกุล คำนำหน้า อายุ เพศ รูปถ่าย วิดิโอข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด พิกัดทางภูมิศาสตร์ วันเดือนปีเกิด สัญชาติ สถานภาพการสมรส ข้อมูลสถานภาพทางการเงิน (เช่น ข้อมูลหนังสือรับรองฐานะทางการเงิน ข้อมูลเครดิต แหล่งที่มาของเงินได้สินทรัพย์ถาวร และหนี้สิน) ข้อมูลด้านการศึกษาและการทำงาน (เช่นตำแหน่งงาน แผนก อาชีพ ข้อมูลใบสมัครงานบริษัทที่ท่านทำงานให้หรือจ้างงานท่าน ข้อมูลการอบรม รายได้และเงินเดือน) ข้อมูลจากเอกสารราชการ (เช่น หมายเลขบัตรประชาชน หมายเลขหนังสือเดินทาง หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษีอากร หมายเลขใบขับขี่ หมายเลขทะเบียนบ้าน) ข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์ (เช่น หมายเลขตัวถังหรือหมายเลขทะเบียนรถยนต์)ลายมือชื่อ (รวมถึงลายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์) ข้อมูลรหัสประจำตัวคู่ค้า (รวมถึง ประเภทคู่ค้ำ) ข้อมูลบัญชีธนาคารและการชำระเงิน (เช่น ชื่อเจ้าของบัญชี ธนาคารที่เปิดบัญชี ประเภทบัญชี และหมายเลขบัญชีธนาคาร ชื่อบัญชีผู้รับประโยชน์วันที่ชำระเงิน วิธีการชำระเงิน สกุลเงินที่ชำระ และบัญชีที่ทำการชำระเงิน รายละเอียดการโอนเงินใน/นอกประเทศไทย) และข้อมูลระบุตัวบุคคลอื่น (เช่น ข้อมูลบัญชีผู้ใช้ไลน์) ข้อมูลที่ดินที่ท่านเป็นเจ้าของ (เช่น หมายเลขหนังสือสำคัญแสดงกรรมสิทธิ์ในที่ดิน)
ข้อมูลที่อยู่ติดต่อ เช่น หมายเลขโทรศัพท์ หมายเลขโทรศัพท์มือถือ หมายเลขโทรสาร ที่อยู่ ที่อยูอีเมล และข้อมูลอื่นๆ ที่คล้ำยคลึงกัน
ข้อมูลอื่น ที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทกับพันธมิตรทางธุรกิจ เช่น ข้อมูลที่ท่านให้แก่บริษัทตามที่ ปรากฎในสัญญา แบบฟอร์ม หรือแบบสำรวจ) ข้อมูลทางธุรกรรมที่ท่านทำกับบริษัท (เช่น เมื่อทำสัญญาเช่าพื้นที่หรือ สัญญาให้บริการขนส่งสินค้า) บันทึกข้อมูลคอมพิวเตอร์
ข้อมูลของบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับท่าน เช่น ข้อมูลที่ระบุตัวตนคู่สมรสหรือบุตรของท่าน ข้อมูลพนักงานของ บริษัทที่เกี่ยวข้องกับท่าน ข้อมูลสถานีบริการ (เช่น รหัสและชื่อของสถานีบริการ)
ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน เช่น เชื้อชาติ ศาสนา ข้อมูลสหภาพแรงงาน ข้อมูลชีวภาพ (เช่น ข้อมูลการจดจำ ใบหน้า และ ลายนิ้วมือ) ข้อมูลสุขภาพหรือสภาพร่างกาย หรือจิตใจ และประวัติอาชญากรรม ทั้งนี้รวมถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อนจากบัตรประจำตัวประชาชน (เช่น เชื้อชาติและ ศาสนา)
2. บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร
บริษัทเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากหลายๆช่องทางซึ่งรวมถึงช่องทางดังต่อไปนี้
3. บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอย่างไร
บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามลักษณะความสัมพันธ์ระหว่งบริษัทกับ ท่าน โดยอาศัยฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย ฐานการปฏิบัติตามสัญญา ฐานการปฏิบัติตามกฎหมายความยินยอม
หรือฐานทางกฎหมายอื่นๆตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด แล้วแต่กรณี ทั้งนี้ เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
การบริหารจัดการความสัมพันธ์ เช่น การวางแผน การดำเนินการ และการบริหารจัดการความสัมพันธ์ และสิทธิทางสัญญากับพันธมิตรทางธุรกิจ เช่น การพิจารณาแต่งตั้ง ยกเลิก หรือมอบอำนาจให้พันธมิตรทางธุรกิจสำหรับการทำธุรกรรมต่างๆ หรือการสั่งซื้อสินค้าหรือบริการ การประมวลผลการชำระเงิน การทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับบัญชี การตรวจสอบบัญชี การออกใบเรียกเก็บเงิน และการเก็บเงิน การจัดการให้มีการขนส่งและจัดส่ง การให้บริการสนับสนุน
การวิเคราะห์ธุรกิจและการปรับปรุงธุรกิจ เช่น การทำวิจัย การวิเคราะห์ข้อมูล การประเมิน การสำรวจ และการทำรายงานเกี่ยวกับสินค้าและบริการของบริษัทและผลการดำเนินงานของท่านหรือของพันธมิตร ทางธุรกิจ การพัฒนาและปรับปรุงกลยุทธ์ทางการตลาดและสินค้าและบริการ
ระบบและการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น การให้การสนับสนุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และฝ่ายช่วยเหลือ บริหารจัดการการเข้าถึงระบบใด ๆ ที่บริษัทได้มอบสิทธิในการเข้าถึงให้แก่ท่าน การลบบัญชีที่ไม่มีการใช้งาน การใช้มาตรการควบคุมทางธุรกิจเพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจได้ และ เพื่อให้บริษัทสามารถระบุและแก้ไขปัญหาในระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของบริษัทและเพื่อรักษา ความมั่นคงปลอดภัยในระบบของบริษัท ทำการพัฒนา ปรับใช้ ดำเนินการ และดูแลรักษาระบบ เทคโนโลยีสารสนเทศ
การตรวจสอบดูแลระบบและความมั่นคงปลอดภัย เช่น การยืนยันตัวตนและการควบคุมการเข้าถึงตามที่ เกี่ยวข้อง การตรวจสอบดูแลระบบ อุปกรณ์และอินเทอร์เน็ต การรักษาความมั่นคงปลอดภัย
ทำงเทคโนโลยีสารสนเทศ การป้องกันและแกัไขปัญหาอาชญากรรม รวมถึงการจัดการความเสี่ยงและ การป้องกันการฉ้อโกง การรายงานอุบัติเหตุ
การจัดการกับข้อพิพาท เช่นการยุติข้อพิพาท การบังคับใช้สัญญา การก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การก่อตั้ง การใช้หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมายรวมถึงการมอบอำนาจ
การบริหารจัดการและการสื่อสารระหว่างหน่วยงานภายในองค์กร รวมถึง การจัดกิจกรรมประชาสัมพันธ์ ภายในองค์กรและปฏิบัติตามข้อกำหนดทางธุรกิจที่เหมาะสม ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะ การจัดซื้อ จัดจ้าง การเบิกจ่ายเงิน การจัดการภายใน การฝึกอบรม การตรวจสอบ การรายงาน กรส่งหรือจัดการ เอกสาร การประมวลผลข้อมูล การควบคุม หรือการจัดการความเสี่ยง การวิเคราะห์และการวางแผนทางสถิติและแนวโน้มต่าง ๆ และกิจกรรมอื่น ๆ ที่คล้ำยคลึงหรือเกี่ยวข้องกัน
การปฏิบัติตามนโยบายภายในและกฎหมายที่ใช้บังคับ รวมถึงข้อบังคับระเบียบ และแนวทางปฏิบัติต่างๆ(เช่น เพื่อขอใบอนุญาตในการประกอบธุรกิจตามที่กฎหมายกำหนด) และการประสานงานหรือการติดต่อ กับหน่วยงานรัฐบาล ศาล หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (เช่น กรมสรรพากร สำนักงานตารวจแห่งชาติและ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน) รวมถึงการสืบสวน การร้องเรียน และ/หรือการป้องกันอาชญากรรม หรือการฉ้อโกง
วัตถุประสงค์ทางการตลาด เช่น แจ้งให้ท่านทราบเกี่ยวกับข่าวสารและข้อมูลเผยแพร่ที่อาจมีประโยชน์ รวมถึงกิจกรรม เสนอบริการใหม่ๆ เจรจาต่อรองราคาสินค้าและบริการ ทำผลการสำรวจ รวมถึงเพื่อ วิเคราะห์และพิจารณาในการสนับสนุนทางการเงิน (เช่น การให้สินเชื่อ) แก่ท่านหรือพันธมิตรทางธุรกิจ
ข้อมูลส่วนบุคคลที่ละเอียดอ่อน เพื่อการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือ โอนข้อมูลส่วนบุคคลที่ ละเอียดอ่อนของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ ที่ต้องได้รับความยินยอมตามกฎหมาย เช่น เพื่อประเมินความเหมาะสมและคุณสมบัติของท่านและพันธมิตรทางธุรกิจ และเพื่อยืนยันตัวตน (ตามข้อมูลที่ได้รับจากบัตรประชาชน) เพื่อตรวจสอบยืนยันตัวตนในการเข้ารับผลิตภัณฑ์และสินค้าในคลังของบริษัท เพื่อบันทึกข้อมูลลงในระบบ เพื่อจัดงานอบรมสัมมนา พิจารณาและบริหารกิจกรรมการจ้างงาน เพื่อลงทะเบียนหรือเปิดบัญชีคู่ค้า และ/หรือบุคคลที่เกี่ยวข้องลงในระบบ เพื่อดำเนินการสืบสวนหรือ สอบสวนทางวินัย และเพื่อประสานงานกับหน่วยงานและหน่วยงานรัฐต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อรับสินค้า ที่โรงงาน เพื่อจัดให้มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมขององค์กร
หากบริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามที่กฎหมายกำหนด หรือเพื่อเข้าทำหรือ ปฏิบัติตามสัญญาที่บริษัทมีกับท่าน แต่ท่านไม่สามารถให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวแก่บริษัทเมื่อบริษัทร้องขอ บริษัทอาจไม่สามารถดำเนินการตามวัตถุประสงค์ตามที่ระบุข้างต้นได้
ในกรณีที่บริษัทมีความจำเป็นต้องได้รับความยินยอมจากท่านในการดำเนินกิจกรรมที่มีการเก็บรวบรวม ใช้หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน บริษัทจะขอความยินยอมจากท่านในเรื่องดังกล่าวเป็นรายกรณีไป
4. บริษัทเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับใคร
บริษัทอาจต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านกับบุคคลอื่น เช่น บริษัทในกลุ่ม Orpak พันธมิตรทางธุรกิจรายอื่นของบริษัท ผู้ให้บริการจากภายนอกที่บริษัทว่าจ้างมา (เช่น ผู้ให้บริการระบบขนส่ง ผู้ให้บริการ อบรมสัมมนาผู้ให้บริการเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์น้ำมัน ผู้รับเหมา ผู้ให้บริการคลาวด์ ผู้ให้บริการวิเคราะห์ข้อมูลและที่ปรึกษา)
ในบางกรณี บริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับหน่วยงานรัฐบาล หน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย ศาล หน่วยงานกำกับดูแล หรือบุคคลอื่นเมื่อบริษัทมีเหตุอันควรเชื่อว่าจำเป็นต่อการปฏิบัติตามกฎหมาย หรือเพื่อคุ้มครอง สิทธิของบริษัท สิทธิของบุคคลภายนอก หรือความปลอดภัยของบุคคล หรือเพื่อตรวจจับ ป้องกัน และแก้ไขปัญหาการฉ้อโกงหรือปัญหาด้านความมั่นคงปลอดภัย หรือในกรณีที่มีการปรับโครงสร้างองค์กร การควบรวมกิจการ การขาย การซื้อ การร่วมลงทุน การโอนสิทธิการเปลี่ยนแปลงเจ้าของกิจการ หรือการจำหน่ายกิจการ ทรัพย์สิน หรือหุ้น หรือการทำ ธุรกรรมที่คล้ายกัน ไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมด โดยบริษัทอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับผู้รับโอนสิทธิและ/หรือหน้าที่ของบริษัท ทั้งนีั้บริษัทจะปฏิบัติตามนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้เพื่อเป็นการเคารพต่อข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
5. การโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ
บริษัทอาจต้องเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศซึ่งอาจมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูล ส่วนบุคคลที่สูงกว่าหรือต่่ำกว่าประเทศไทย เช่น เมื่อบริษัทเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านบนแพลตฟอร์มคลาวด์หรือ เซิร์ฟเวอร์ที่ตั้งอยู่นอกประเทศไทย หรือเพื่อใช้บริการสนับสนุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
เมื่อมีความจำเป็นต้องโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศที่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ต่ำกว่าประเทศไทย บริษัทจะดำเนินการเพื่อให้มันใจว่ามีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกโอนไปในระดับที่เพียงพอ หรือ ดำเนินการให้มั่นใจว่ากฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องอนุญาตให้โอนข้อมูลได้เช่น บริษัทอาจต้อง ได้รับคำยืนยันตามสัญญาจากบุคคลภายนอกที่มีสิทธิเข้ำถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่ถูกโอนว่าข้อมูลดังกล่าวจะได้รับ การคุ้มครองภายใต้มาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เทียบเท่ากับประเทศไทย
หากท่านต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีที่บริษัทคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเมื่อมีการโอนไปยังต่างประเทศ โปรดติดต่อบริษัทตามรายละเอียดในหัวข้อ”ติดต่อเรา”
6. บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้นานเท่าใด
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ในระยะเวลาเท่าที่จำเป็น เพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้รับข้อมูลมาและเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้บริษัทอาจต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้นานขึ้น ตามที่กฎหมายกำหนด
7. สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล
ภายใต้เงื่อนไขที่กฎหมายกำหนดและภายใต้กระบวนการจัดการสิทธิของบริษัท ท่านอาจมีสิทธิต่อไปนี้ ขอเข้าถึง รับสำเนาของข้อมูลส่วนบุคคล หรือขอให้เปิดเผยการได้มาซึ่งข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ได้รับความยินยอมจากท่าน ขอให้แก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ถูกต้อง เป็นปัจจุบัน สมบูรณ์และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
หากท่านต้องการใช้สิทธิใดๆ ตามที่ระบุข้างต้นโปรดติดต่อบริษัทได้ตามรายละเอียดในหัวข้อ”ติดต่อเรา”
ทั้งนี้อาจมีกรณีที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องจำกัดการใช้สิทธิใดๆข้างต้นหรืออาจมีบำงกรณีที่บริษัทสามารถปฏิเสธ คำขอของท่านได้ตามสมควรและโดยชอบ เช่น ในกรณีที่บริษัทปฏิเสธการใช้สิทธิของท่านเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายหรือ คำสั่งศาล โดยหากบริษัทปฏิเสธคำขอของท่านด้วยเหตุดังกล่าว บริษัทจะแจ้งเหตุผลให้ท่านทราบ
หากท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านโดยบริษัทเป็นการละเมิดกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้อง ท่านมีสิทธิร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล อย่างไรก็ตาม หากท่านมีข้อร้องเรียนใด ๆ โปรดติดต่อบริษัทเป็นลำดับแรกก่อนที่ท่านจะติดต่อหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้โอกาสบริษัทในการดำเนินการแก้ไขตามข้อร้องเรียนของท่านอย่างเหมาะสม
8. มาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัย
บริษัทได้จัดให้มีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม ซึ่งครอบคลุมถึงมาตรการป้องกันด้านการบริหารจัดการ มาตรการป้องกันด้านเทคนิค และมาตรการป้องกันทางกายภาพ ในเรื่องการเข้าถึงหรือ ควบคุมการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อธำรงไว้ซึ่งความลับ ความถูกต้องครบถ้วน และสภาพความพร้อมใช้งานของข้อมูล ส่วนบุคคล เพื่อป้องกันการสูญหาย เข้ำถึง ใช้ เปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยปราศจากอำนาจหรือโดยมิชอบ ทั้งนี้เป็นไปตามที่กฎหมายที่ใช้บังคับกำหนด
บริษัทได้จัดให้มีมาตรการควบคุมการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและการใช้งานอุปกรณ์สำหรับจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ปลอดภัยและเหมาะสมกับการเก็บรวบรวม ใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทยังได้ วางมาตรการจำกัดการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลและการใช้งานอุปกรณ์สำหรับจัดเก็บและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล โดยกำหนดสิทธิเข้าถึงข้อมูลของผู้ใช้งาน สิทธิในการอนุญาตให้ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลได้ และหน้าที่ ความรับผิดชอบของผู้ใช้งาน เพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต การเปิดเผย การล่วงรู้หรือ การลักลอบทำสำเนาข้อมูลส่วนบุคคล หรือการลักขโมยอุปกรณ์จัดเก็บหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้บริษัท ยังได้วางมาตรการสำหรับการตรวจสอบย้อนหลังเกี่ยวกับการเข้าถึง เปลี่ยนแปลง ลบ หรือถ่ายโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้สอดคล้อง เหมาะสมกับวิธีการและสื่อที่ใช้ในการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
9. การเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้
บริษัทอาจแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เป็นครั้งคราวหากมีการเปลี่ยนแปลงวิธีทางปฏิบัติว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทอันเนื่องมาจากเหตุผลต่างๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีหรือ การเปลี่ยนแปลงทางกฎหมาย โดยการแก้ไขเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้จะมีผลบังคับใช้เมื่อบริษัทเผยแพร่ นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับแก้ไขบน https://orpak.co.th อย่างไรก็ตาม หากการแก้ไขดังกล่าวมีผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล บริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้าตามความเหมาะสมก่อนที่การเปลี่ยนแปลงนั้นจะมีผลบังคับใช้
10. ติดต่อเรา
หากท่านมีข้อสงสัยเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติและกิจกรรมของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านสามารถติดต่อบริษัทได้ตามรายละเอียดด้านล่าง โดยบริษัทยินดีที่จะให้ความช่วยเหลือท่าน ให้ข้อมูล ข้อเสนอแนะ และแก้ไขข้อร้องเรียนต่างๆ
บริษัท ออร์แพค โซลูชั่น จำกัด
ชั้น 6 อาคารบุญญสถิตย์ ถนนพระรามที่ 3 บางโคล่ บางคอแหลม กรุงเทพฯ 10120
https://orpak.co.th,
Contact Center : 02 4024444